การปรับตัวและอิทธิพลของนโยบายการเงินของยุโรปและอเมริกา

1. เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยประมาณ 300 จุดพื้นฐานในปีนี้

เฟดคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยประมาณ 300 จุดพื้นฐานในปีนี้ เพื่อให้นโยบายการเงินของสหรัฐฯ เพียงพอก่อนที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยหากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงดำเนินต่อไปภายในปีนี้ คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะขาย MBS อย่างจริงจังและขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามจากภาวะเงินเฟ้อตลาดควรตื่นตัวอย่างมากต่อผลกระทบด้านสภาพคล่องในตลาดการเงินที่เกิดจากการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดและการปรับลดงบดุล

2. ECB อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 100 จุดพื้นฐานในปีนี้

อัตราเงินเฟ้อที่สูงในยูโรโซนได้รับอิทธิพลอย่างมากจากราคาพลังงานและอาหารที่สูงขึ้นแม้ว่า ECB ได้ปรับจุดยืนของนโยบายการเงินแล้ว แต่นโยบายการเงินได้จำกัดการจำกัดราคาพลังงานและอาหาร และการเติบโตทางเศรษฐกิจระยะกลางและระยะยาวในยูโรโซนก็อ่อนแอลงความเข้มข้นของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดย ECB จะน้อยกว่าของสหรัฐฯเราคาดว่า ECB จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมและมีแนวโน้มจะสิ้นสุดอัตราดอกเบี้ยติดลบภายในสิ้นเดือนกันยายนเราคาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ถึง 4 ครั้งในปีนี้

3. ผลกระทบของนโยบายการเงินที่เข้มงวดในยุโรปและสหรัฐอเมริกาต่อตลาดเงินทั่วโลก

ข้อมูลนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งและอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นใหม่ทำให้เฟดมีความหวัง แม้ว่าจะมีการคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยดังนั้นคาดว่าดัชนี DOLLAR จะทดสอบตำแหน่ง 105 ต่อไปในไตรมาสที่สามหรือทะลุ 105 ภายในสิ้นปีนี้แทน เงินยูโรจะสิ้นปีกลับประมาณ 1.05แม้ว่าเงินยูโรจะแข็งค่าขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในเดือนพฤษภาคมเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป แต่ความเสี่ยงจากภาวะชะงักงันที่รุนแรงมากขึ้นในระยะกลางและระยะยาวในยูโรโซนกำลังซ้ำเติมความไม่สมดุลของรายรับและรายจ่ายทางการคลัง ทำให้แข็งแกร่งขึ้น การคาดการณ์ความเสี่ยงด้านหนี้สิน และการถดถอยของเงื่อนไขการค้าในยูโรโซนเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนจะทำให้ความแข็งแกร่งที่ยั่งยืนของเงินยูโรอ่อนแอลงในบริบทของการเปลี่ยนแปลงสามครั้งทั่วโลก ความเสี่ยงของการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และดอลลาร์แคนาดาอยู่ในระดับสูง รองลงมาคือเงินยูโรและเงินปอนด์ความน่าจะเป็นที่แนวโน้มแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐและเงินเยนในช่วงปลายปียังคงมีสูงขึ้น และคาดว่าสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่จะอ่อนค่าลงในอีก 6-9 เดือนข้างหน้า เนื่องจากยุโรปและสหรัฐอเมริกาเร่งรัดนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น .


เวลาโพสต์: มิ.ย.-29-2565